วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ในเขตสุขาภิบาลอำเภอธาตุพระพนมเป็นที่ประดิษฐานของพระธาตุพนมเป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมสูง มีลักษณะที่สวยงายมากภายในวัดพระธาตุพนมมีหอพระนอนพระอินทร์สระสถูปอัฐิพระธาตุจากผลการขุดค้นทางโบราณคดีลงความเห็นว่าพระธาตุพนมสร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. ๑๒๐๐-๑๔๐๐ ภายในองค์พระธาตุพนมบรรจุอุรังคธาตุของสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ ลักษณะของสถาปัตยกรรมมีแหล่งที่มาที่เดี่ยวกันกับปราสาทของขอมและได้ทำการบูรณะเรื่อยมา  ในปี  พ.ศ.๒๔๘๕  ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกขึ้นเป็น “วรมหาวิหาร” ในวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๔๑๘ เวลา ๑๙.๓๐ น. พระธาตุพนมได้ล้มทลายลงทั้งองค์เนื่องจากความเก่าแก่ขององค์พระธาตุพนมและในช่วงเวลานั้นได้เกิดพายุพัดแรงฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันประชาชนทั้งประเทศได้รวมกันบริจาคทุนทรัพย์และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ตามแบบเดิมการก่อสร้างนี้แล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๒๒ นอกจากพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุในองค์พระธาตุแล้วยังมีของมีค่ามากมายนับหมื่นชิ้นโดยเฉพาะทองคำบนยอดพระธาตุน้ำหนักถึง ๑๑๐ กิโลกรัมปัจจุบันองค์พระธาตุมีฐานกว้างด้านละ ๑๒.๓๓ เมตรสูง๕๓.๖๐ เมตร เป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมสูงแลดูสง่างาม งานนมัสการองค์พระธาตุพนม เริ่มตั้งแต่วันขึ้น ๑๐ ค่ำ ถึงวันแรม ๑ ค่ำเดือน ๓ ของทุกปี

       พิพิธภัณฑ์พระอาจารย์บัว เตมิโย วัดศิลามงคล บ้านหลักศิลา ห่างจากอำเภอธาตุพระพนมประมาณ ๕ กิโลเมตร มีอัฐิธาตุของอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เครื่องอัฐบริขาของพระอาจารย์บัว เตมิโย  และร่างกายของท่าน ซึ่งหลังจากมรณภาพแล้วไม่เน่าเปื่อยเป็นที่เคารพนับถือของชาวนครพนมนอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปปางต่างๆ ให้ชมอีกมาก

        วัดหลักศิลา  ตั้งอยู่ที่บ้านหลักศิลา  ตำบลพระกลางทุ่ง  ห่างจากอำเภอธาตุพนมประมาณ  ๘  กิโลเมตร  เป็นวัดที่เก็บรักษาใบเสมามีอายุเก่าแก่  สันนิษฐานว่าเป็นใบเสมาที่มีอายุราวคราวเดียวกับใบเสมาในกลุ่มเมืองฟ้าแดดสงยาง  จังหวัดกาฬสินธุ์

       วัดหัวเวียงรังษี ตั้งอยู่ในเขตสุขาภิบาลอำเภอธาตุพนม ติดกับโรงเรียนบ้านธาตุ เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงสันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นสมัยปฏิสังขรณ์วัดพระธาตุพนม เพราะอิฐที่ก่อสร้างสิมเป็นอัฐิรุ่นเดียวกับวัดพระธาตุพนม และเป็นวัดที่สร้างทับวัดเก่า ลักษณะของสิมวัดหัวเวียงรังษี มีรูปทรงแบบสิมริมแม่น้ำโขงมีภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณ เป็นภาพแต้มปรากฏอยู่ภายในสิมและภายนอกสิมบางแห่ง ภาพภายในเป็นเรืองพุทธประวัติทศชาติ ( ผนังรีด้านซ้ายเป็นภาพ ท่านช้าง ท่านลูก สองกุมารหนีไปซ่อนในสระบัว)  และรามเกียรติ์ วาดขึ้นในราว พ.ศ.๒๔๖๔ ใช้เวลาวาดประมาณ ๒ ปี โดยช่างแต้ม คือ หลวงชาญอักษร จารย์คูน และจารย์สี

        วัดพุทธสีมา ตั้งอยู่ที่บ้านต้อง ตำบลฝั่งแดง ก่อนถึงอำเภอธาตุพนม ประมาณ ๖ กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าวัดประมาณ ๕๐๐เมตร เดิมเรียกวัดบ้านฝั่งแดง เพราะบริเวณนี้มีตระพังแดงซึ่งเกิดจากน้ำที่ไหลมาจากหนองหานมีสีแดงสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๒ จากหลักฐานที่ปรากฏเป็นตัวอักษรอยู่เหนือกรอบประตูด้านหน้า “โรงพระอุโบสถ ได้รับพระราชทาน วันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ.๒๔๖๒” ตัวสิมหันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีรูปทรงเป็นอาคารสถาปัตยกรรมสมัยราชกาลที่ ๕ เป็นสิมก่ออิฐถือปูน กรอบประตู และหน้าต่างทำเป็นรูปโค้ง บนผนังด้านนอกตัวอาคารปรากฏภาพจิตรกรรมอยู่เหนือกรอบประตู และหน้าต่างทำเป็นรูปโค้ง บนกรอบโค้งเหนือบานหน้าต่างมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ลายเส้น ใช้สีแซมแต่เพียงบางสวน รูปภาพภายนอกเป็นภาพแสดงพุทธประวัตินรก โดยใต้ภาพช่างแต้ม (จารย์คูนและจารย์ผุย) จะเขียนตัวอักษรไทยน้อยกำกับเอาไว้